ร้านแว่นตา Lens Studdio เกิดจากแรงกายแรงใจของพวกเรา นำทีมโดยหมอไฮ่และหมอมิ้นต์

ซึ่งทั้ง 2 ท่านนี้เป็นใคร ... แอ้ดมินจะขอแนะนำกันหน่อยนะคะ

คุณหมอทั้งสองด้วยวัยที่ห่างกัน 3 ปี แต่เส้นทางชีวิตคล้ายคลึงกัน เป็นศิษย์เก่า รร.เตรียมอุดมศึกษาทั้งคู่ จากนั้นคุณหมอทั้ง 2 ได้จบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มศึกษาตั้งแต่จบเป็นแพทย์ทั่วไป (general practitioner) เรียนต่อเฉพาะทางจักษุวิทยา (ophthalmology) และ กลับไปต่อยอดการศึกษาในสาขาที่ลึกขึ้น และยังขาดแคลนอยู่ในประเทศไทย หมอไฮ่ในสาขาศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างรอบดวงตา (oculoplastic sugery) ส่วนหมอมิ้นต์ในสาขาจอตาและน้ำวุ้นตา (vitreoretinal surgery) รวมทั้งหมด ผ่านการศึกษาในศิริราช ท่านละ 11 ปี 

24 ชม. ของแต่ละวันที่ศิริราช ผ่านไปด้วยตารางการเรียน การทำงานออกตรวจ การผ่าตัดและอยู่เวรกลางคืนที่เข้มข้น การได้อยู่ใกล้ชิด และได้เรียนรู้จากจักษุแพทย์ที่เก่ง มากด้วยประสบการณ์ มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ ดั่งเช่นอาจารย์ทุกท่านของศิริราช ทำให้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของคุณหมอทั้งสองเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย แต่ถึงกระนั้น บ่อยครั้ง ที่แม้ทีมการรักษา ทั้งอาจารย์แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ในแผนกจะทุ่มเทแรงกายแรงใจรักษาคนไข้ให้บรรเทาเบาบางจากการเจ็บป่วยโรคทางตาอย่างไร คนไข้ก็ยังลงเอยด้วยภาวะสายตาเลือนลาง หรือแย่กว่านั้นคือการสูญเสียการมองเห็น

คลินิกสายตาเลือนลาง คือที่สำหรับ “ช่วยเหลือ ฟื้นฟู” สำหรับผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัด จนโรคบรรเทา ถึงจุดคงที่แล้ว การฟื้นฟูหรือช่วยการมองเห็นที่ยังพอเหลืออยู่ด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ป่วยมีกำลังใจช่วยเหลือตัวเองได้ ให้ญาติสามารถเข้าใจและปรับตัวกับการดูแลผู้พิการทางสายตา เป็นสิ่งที่แพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมจากศิริราชทุกท่านได้เรียนรู้ มันเป็นการรักษาคนไข้อีกแขนงหนึ่ง ซึ่งหมอไฮ่และหมอมิ้นต์ได้รับการฝึกตลอดของการเรียนเป็นจักษุแพทย์ ทั้งการวัดสายตา การให้คอนแทคเลนส์ รวมถึงการจ่ายอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยสายตาพิการ

ในมุมของแพทย์และทีมงานที่ให้การฟื้นฟูการมองเห็น สำหรับคนที่ต้องคลำทางเพื่อเดิน แต่ละวันเห็นแสงเพียงริบหรี่ ได้มีการมองเห็นดีขึ้นจนสามารถหยิบจับของในระยะใกล้ๆ เพื่อกินข้าวกินน้ำ ใช้ชีวิตให้สะดวกขึ้นบ้าง ถือเป็นความสำเร็จ อิ่มใจ และภูมิใจ ที่ผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ตรงนั้น ยากจะเข้าใจ

คุณหมอมิ้นต์เมื่อครั้งจบเป็นจักษุแพทย์ใหม่ๆ ได้กลับไปทำงานเป็นจักษุแพทย์ท่านแรกประจำ ณ รพ.รัฐบาลแห่งหนึ่ง นอกจากจะเป็นหนึ่งในทีมที่ให้การรักษาโรคตาแล้ว ได้เริ่มนำทีมผ่าตัดต้อกระจก และจัดตั้งตู้แว่น เพื่อให้บริการวัดสายตาตัดแว่นสำหรับคนไข้และบุคลากรใน รพ.ในราคาประหยัด ทั้งยังนำรายได้ส่วนหนึ่งบริจาคเข้ามูลนิธิของ รพ.ทุกเดือนตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ก่อนจะกลับไปศึกษาต่อจักษุแพทย์ต่อยอดสาขาจอตาและน้ำวุ้นตาที่ศิริราช

ครั้งเมื่อหมอไฮ่จบการศึกษาและกลับมาช่วยราชการต่อที่จังหวัดอุดรธานีบ้านเกิด พร้อมด้วยหมอมิ้นต์ในปี 2559 จึงได้เริ่มต้นคลินิกรักษาโรคตา ภายใต้ชื่อของคุณหมอเอง “ฐิติญาภรณ์-พิชชา คลินิคตาอุดรธานี” เปิดทำการรักษานอกเวลาราชการ เพื่อให้คนไข้ได้เข้าถึงการตรวจรักษาที่รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคิวการตรวจรักษานานเป็นวัน หรือรอนัดข้ามเดือน เช่นในโรงพยาบาลรัฐบาล คุณหมอมีเวลาอธิบายพูดคุยกับคนไข้และญาติได้นานขึ้น และจ่ายยาทั้งยาผลิตนอก ยาผลิตในไทยที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ผ่าตัดรักษาผ่านการทำปราศจากเชื้อด้วยเครื่องมือมาตรฐาน ราคาค่ารักษาที่เรียกได้ว่าย่อมเยาว์มากเทียบกับโรงพยาบาลเอกชน

การดูแลคนไข้ในคลินิก คุณหมอได้จัดหาเครื่องมือที่สามารถให้บริการการวัดสายตา เพื่อให้ค่าแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ที่แม่นยำ ปรับปรุงการมองเห็นให้คนไข้ที่จำเป็นได้  แนะนำ จัดหาและดูแลเรื่องเลนส์แว่นตา ซื้อเครื่องตรวจสอบเลนส์ เครื่องฝนประกอบเลนส์แว่นตามาตรฐานจากต่างประเทศ เครื่องมือแต่ละชิ้นที่คุณหมอเลือก ก็เพื่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนในแต่ละขั้นตอนของการตัดประกอบแว่นให้น้อยที่สุด คนไข้หรือลูกค้าจะต้องได้รับแว่นสายตาที่พอเหมาะพอดีกับแต่ละคนอย่างแท้จริง

กรอบแว่นตาที่คลินิกนอกจากความสวยงามและความทนทานที่ต้องได้มาตรฐานและผ่านตาผ่านมือการเลือกเฟ้นโดยคุณหมอและทีมงานทุกตัวแล้ว น้ำหนักเบา แบบทันสมัย วัสดุแข็งแรง สีสวยและไม่ลอกง่าย ราคาไม่แพง  ทั้งกรอบแว่นคนไทยผลิต จนถึงกรอบแว่นแฟชั่นแบรนด์เนมต่างๆ ก็ยังได้ถูกเลือกให้มาวางในคลินิก เลนส์สายตาที่เลือกใช้วัสดุ ความใส การเคลือบพิเศษต่างๆ การเก็บรักษาเลนส์ โครงสร้างของเลนส์ ได้ผ่านการศึกษาและเลือกพาร์ทเนอร์บริษัทที่ได้มาตรฐาน เพื่อว่า ผู้ที่ใส่แว่น นอกจากจะได้ประโยชน์ทางสายตาที่ดีขึ้นแล้ว ความสวยงาม ความมั่นใจและความภูมิใจในแต่ละครั้งที่สวมใส่ นั้นคือสิ่งที่เราต้องดูแลให้รอบด้าน แม้ในเรื่องราคา หากเทียบคุณสมบัติของกรอบและเลนส์ รวมถึงขั้นตอนแต่ละขั้นเพื่อให้ได้มาซึ่งแว่นตัดให้พอเหมาะพอดีของแต่ละบุคคลนับว่าไม่แพงเลย คนไข้บางคนของคุณหมอใช้แว่นตาที่ตัดกับเราในราคาเริ่มต้น 1500 บาท เข้าปีที่ 4 แล้ว แว่นยังอยู่ในสภาพดี เป็นแว่นคู่กายที่คว้ามาสวมใส่ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน

ทุกวันนี้ คุณหมอตาหลายๆ ท่านในจังหวัดอุดรธานีและอื่นๆ ในอีสาน ได้ส่งคนไข้เพื่อมาวัดแว่นสายตาที่คลินิก ทั้งเด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุที่ผ่านการผ่าตัดรักษามาแล้ว  การให้เวลาเต็มที่ในการค้นหาค่าสายตาที่ดีที่สุดที่คนไข้หรือลูกค้าควรจะได้ด้วยความตั้งใจทุกราย ความเป็นคนรุ่นใหม่ที่กระตือรือล้น แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตรและน้ำเสียงที่สุภาพในการให้บริการของคุณหมอทั้งสอง เป็นสิ่งที่คนไข้หรือลูกค้าทุกคนได้สัมผัส ประทับใจ และแนะนำต่อๆ กันไป

ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่และการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง , โปรเจกร้าน Lens studio ที่ขอนแก่น จึงถือกำเนิดขึ้น ทำให้ความฝันอีกสเต็ปหนึ่งของคุณหมอทั้งสองถูกร่างและผสานเป็นรูปร่างที่ชัดเจน คุณหมออยาก ขยายร้านแว่นตาที่เป็นมิตรกับผู้ที่จำเป็นต้องใช้แว่น เป็นร้านของคนรุ่นใหม่ มีความยืดหยุ่นทั้งการเลือกกรอบและเลนส์ มีราคาที่ไม่แพง ไม่ซับซ้อน การขายตรงไปตรงมา ร้านสะอาดและสบายตาเมื่อเข้าใช้บริการ ใกล้ชุมชน และไม่ต้องถูกค่าเช่าแสนแพงบนห้างสรรพสินค้ากำหนดให้ต้นทุนสูงและทำให้ราคาแว่นสูงตามไปด้วย แต่มาตรฐานก็ยังสูงเฉกเช่นมาตรฐานที่คุณหมอใช้ดูแลคนไข้ที่คลินิกที่อุดรมากว่า 4 ปี ที่ร้านสามารถวัดสายตาที่ยากและซับซ้อนได้ ด้วย “นักทัศน์มาตร” ผู้ที่ผ่านการศึกษาได้ปริญญาสาขานี้โดยตรง ได้รับการรับรองเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นผู้ให้การวัดสายตาหลัก “ผู้จัดการและช่างแว่น” ร้านที่มีประสบการณ์ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความกระตือรือล้น ยิ้มแย้มและเป็นมิตร สามารถประกอบแว่นสายตาที่เที่ยงตรง  และเข้าใจใกล้ชิดกับความเป็นตัวตนของคุณหมอทั้งสองท่าน คุณหมอเลือกเริ่มต้นโปรเจกร้านใหม่นี้ที่ขอนแก่นและใกล้โรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นแหล่งชุมชนที่ยังมีร้านแว่นตาไม่มาก และยังไม่มีร้านไหนที่มีคอนเซ็ปที่ใกล้เคียง เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่เริ่มต้นการใส่แว่น และมีงบประมาณจำกัด  ที่ต้องการประสบการณ์การตัดแว่นและคุณภาพที่ดีสมราคา ทำเลร้านตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ห่างจากถนนหลักเพียง 10 เมตร เป็นที่ที่น้องสาวคนเล็กของคุณหมอเคยใช้พักอาศัยครั้งยังเป็นนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นมุมที่สงบและเป็นมิตรไม่พลุกพล่าน แต่ใกล้กับถนนกังสดาลในระยะเดินถึง ถนนที่ซึ่งมีชีวิตชีวา คึกคักทั้งกลางวันกลางคืน การออกแบบและตกแต่งร้านโดยคุณหมอเอง เพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวตน และความตั้งใจให้ได้มากที่สุด ทีมงานที่ช่วยก่อสร้างโปรเจกนี้ให้เป็นตัวตนขึ้นมา คือ ป๊า ม๊า น้องชาย น้องสะใภ้ หลานๆ และน้องสาว ที่คอยสนับสนุนในทุกๆ เรื่อง ทุกความฝัน ในทุกช่วงของเวลา สินค้าที่เลือกวางในร้าน คอนเซ็ปหลักคือความเป็น “Quality Hybrid “ , เพื่อผสานการใส่แว่นด้วยคอนเซ็ปของการดูแลรักษาสายตา ไปจนถึงการเสริมสร้างบุคลิกและความมั่นใจด้วยแว่นตา    

จนถึงวันนี้ ผ่านการมองเห็นและรับรู้ของแอ้ดมิน ได้เห็นผลงานการสร้างสรรค์ทุกอย่างที่สร้างขึ้นมาผ่านการคิดและการปรับปรุงอย่างพิถีพิถันและใส่ใจของทีมงานทุกคน....แอ้ดมินมั่นใจว่า ทุกคนที่ได้รับการบริการของเรา จะรักในความเป็น Lens Studio ...